โรคฮิตติดอันดับที่คนไทยส่วนใหญ่ให้ความกังวลและกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้หรือไม่ คือ โรคเบาหวาน มีวิธีการป้องกัน อย่างไร หรือหากเป็นแล้วมีการรักษา ร่างกายอย่างไร วันนี้รถเข็นไฟฟ้า Cruisemate ขออธิบายทุกเรื่องที่สงสัยให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนี้ครับ
สารบัญเนื้อหา
โรคเบาหวานคืออะไร
โรคที่พบได้เป็นจำนวนมากในประเทศในในยุคปัจจุบัน ซึ่งลักษณะโรคนี้ก็คือเป็นโรคที่มีภาวะ หรือ สภาพของเลือดในร่างกายมีระดับน้ำตาลสูงกว่าปกติ นั่นคือ โรคเบาหวาน
ซึ่งเมื่อเลือดของเรา มีความเข้มข้นมากขึ้น ก็ส่งผลต่อร่างกาย ซึ่งจะเกิดอาการ แทรกซ้อนได้หลายอย่างครับ
ต้องเริ่มอย่างนี้ครับ โดยปกติแล้ว ร่างกายของคนเราที่พระเจ้าสร้างมานี้ มีความอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป จะมีฮอร์โมนตัวหนึ่งที่ชื่อว่า อินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากตับ ทำหน้าที่ในการนำน้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง
แต่!!! ถ้าการทำงานของฮอร์โมนนี้ผิดปกติล่ะ กล่าวคือ ตับทำการผลิตฮอร์โมนได้น้อย หรือ ผลิตออกมาแล้ว ฮอร์โมนไม่มีประสิทธิภาพ จะเกิดผลกอย่าวไร
ตอบ…ก็ส่งผลให้ กระแสเลือกมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเรื้อรัง
อย่างนี้แหละครับ ที่เรียกว่า โรคเบาหวาน
ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า ตัวการที่เป็นสาเหตุ คือ การทำงานของฮอร์โมนผิดปกติครับ ส่วนเหตุผลที่ฮอร์โมนผิดปกตินั้นจะเกิดจากอะไร เดียวจะทำการอธิบายในตอนต่อไปครับดังนั้น
โดยสรุป
คือโรคเรื้อรังที่มีลักษณะของโรคคือ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็เพราะ ฮอร์โมนที่ชื่อ อินซูลิน ทำงานไม่ดีเมื่อทำงานได้ไม่ดี ก็ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น และส่งผลต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
แล้วระดับน้ำตาลปกติในคนอยู่ที่เท่าไหร่
คำถามนี้ จะสามารถที่จะแบ่งได้ 2 กรณี คือ
- การตรวจน้ำตาลเมื่องดอาหาร
- การตรวจน้ำตาลหลังทานอาหาร
กรณีแรก กรณีที่มีการตรวจวัดน้ำตาลเมื่องดอาหารด้วยคนปกติแล้วจะมีระดับน้ำตาลอยู่ที่ 60-100 แต่หากกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลอยู่ที่ 100 ถึง 120 สำหรับผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ที่จัดว่าเป็นเบาหวานแล้วจะมีน้ำตาลอยู่ที่ 126 ขึ้นไป
กรณีที่ 2 หลังการทานอาหารด้วยคนปกติแล้วจะมีน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ประมาณ 140 สำหรับกลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นจะอยู่ที่ 140 ถึง 200 ส่วนผู้ที่อยู่ในเกณฑ์เป็นเบาหวานมีน้ำตาลในเลือดที่ 200 ขึ้นไป
โรคเบาหวานอาการ
ซึ่งสาเหตุ ของการที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงนั้น เกิดขึ้นมาจากการฮอร์โมนที่ชื่อว่าอินซูลิน มีจำนวนน้อยลง หรือประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินลดลง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอินซูลินนั้นซึ่งการที่ฮอร์โมนอินซูลินลดลงหรือทำงานมีประสิทธิภาพเพราะตรงนั้นส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงมากขึ้นซึ่งการที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นในระดับที่เกินมาตรฐานก็จะส่งผลทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
และหากระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะจะส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน
ถ้าจะพูดถึงเรื่องปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้อย่างแน่ชัด ก็ค่อนข้างที่จะซับซ้อน และไม่สามารถที่จะอธิบายได้อย่างฟันธงไปที่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เพียงแต่เราสามารถที่จะระบุได้ว่าอะไรเป็นปัจจัยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคนี้
เพื่อให้ทราบสาเหตุ ในเบื้องต้นเบาหวานนั้นเกิดจากการที่ฮอร์โมนอินซูลินทำงานผลิตปกติ ซึ่งเกิดได้ 2 แบบ คือตับไม่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินหรือตับผลิตแล้ว แต่ไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งโดยปกติแล้วฮอร์โมนอินซูลินนี้จะเป็นฮอร์โมนที่ช่วยนำน้ำตาลเข้าไปยังอวัยวะต่างๆ ซึ่งหากฮอร์โมนอินซูลินนี้ไม่สามารถผลิตได้หรือไม่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพก็จะส่งผลให้น้ำตาลเกิดข้างค้างในเลือดเป็นจำนวนมากและเมื่อเกิดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้นั่นเอง
โดยทั้งนี้แล้วจากการทำวิจัยมานั้น อาจจะเกิดจาก 2 กรณีหลักๆ คือ
ปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ หรือ ปัจจัยด้านการดำรงชีวิต ซึ่งนั่นก็คือรูปแบบการใช้ชีวิตนั่นเอง
ปัจจัยแรก ปัจจัยเรื่องของกรรมพันธุ์ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สามารถที่จะยืนยันได้ว่า มีปัจจัยที่เกิดจากกรรมพันธุ์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ยิ่งเป็นญาติสายตรงเป็นโรคเบาหวาน โอกาสที่จะเกิดกับรุ่นลูกหรือรุ่นหลานได้ในอัตราเสี่ยงที่สูงกว่า
ปัจจัยที่สอง คือ ปัจจัยในเรื่องของการดำเนินชีวิต หรือรูปแบบการใช้ชีวิต ไม่ว่าลักษณะของการบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด ที่มีไขมันเยอะ หรือ ออาหารที่มีความหวานมาก ๆ ติดต่อกันเป็นกิจวัตรเป็นเวลานาน ก็สามารถที่จะเป็นบ่อเกิดอันตราย และเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานได้เช่นเดียวกัน
สังเกตอาการเบื้องต้น
คุณเป็นแบบนี้อยู่หรือเปล่า?
- รู้สึกกระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา
- แผลหายช้าลง
- อ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา
- มีน้ำตาลในเลือดสูง
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
1 รู้สึกกระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากมีน้ำตาลในเลือดสูงดังนั้นร่างกายจึงตอบสนองด้วยการที่ต้องการดื่มน้ำมากขึ้นซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีอาการ กระหายน้ำตลอดเวลา
2 แผลหายช้าลง ในกรณีที่ผู้ป่วยเบาหวานเกิดแผลไม่ว่าที่ใดก็ตามจะสังเกตได้ว่าแผลจะแห้งได้ช้าลง
3 รู้สึกอ่อนเพลียผู้ป่วยรู้สึกที่ต้องการพักผ่อนอยู่ตลอดเวลา
4 มีน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งสามารถตรวจวัดได้ด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด
5 น้ำหนักลด ผู้ป่วยเบาหวานจะมีน้ำหนักลดลงโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ และไม่ได้เกิดจากการออกกำลังกายคืออยู่ดีๆแล้วน้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตามเหตุผลที่น้ำหนักลดลงอาจจะไม่ใช่การแสดงออกของน้ำหนักของโรคเบาหวานเท่านั้นอาจจะเกิดจากปัจจัยอื่นๆ
ดังนั้นการตรวจว่าผู้ป่วยมีข้อสงสัยว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ควรที่จะปรึกษาแพทย์และตรวจกับแพทย์เพื่อได้รับการยืนยันที่ดีที่สุด
โรคแทรกซ้อนต่างๆ
จากที่ผู้ป่วย มีน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลให้ความเข้มข้นของเลือดมีมากขึ้นทำให้ภาวะที่เลือกมีการอื่นขึ้นดังนั้นถ้าเปรียบหัวใจเหมือนเครื่องปั๊ม เพื่อส่งกระแสเลือดไปยังส่วนต่างๆของร่างกายเมื่อเลือดมีความหนืดขึ้นปั๊มจึงต้องทำงานหนักมากขึ้น
ดังนั้นเมื่อภาวะของโรคเบาหวานที่ทำให้เลือดมีความหนืดขึ้นกว่าปกตินั้นก็จะส่งผลมากมายตามมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหลอดเลือดที่จะต้องรับแรงดันมากขึ้น
ซึ่งจะส่งผลให้เกิด โรคหัวใจ ปัญหาการมองเห็น โรคในช่องปาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณเท้าหรือแม้กระทั่ง ภาวการณ์หยุดหายใจขณะหลับ
วิธีการรักษา ดูแลผู้ป่วย
อย่างไรก็ดีเมื่อ เพื่อป้องกันให้เราปราศจากโรคเบาหวานสิ่งสำคัญและจำเป็นที่สุดคือมันดูแลร่างกายให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกินอาหารที่ดีหรือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดของตัวเอง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และชีวิตที่มีความสุขมากยิ่งขึ้น
วิธีการป้องกันโรคเบาหวาน
สิ่งสำคัญที่สุดในการที่เราจะป้องกันได้ก็คือเราต้องเปลี่ยนวิถีในการชีวิต
- พยายามลดอาหารที่มีไขมันสูงหรือมีน้ำตาลสูงซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนเป็นไขมันได้ ควรบริโภคอาหารที่เป็นผักผลไม้ข้าวกล้อง
- มื้อหลักให้เป็นมื้อย่อยๆในแต่ละวัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เพื่อป้องกันการเสียสมดุลของร่างกาย
- หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายสดใสแข็งแรงและยังห่างไกลโรคอื่นๆอีกด้วย
- กลับสู่สารบัญ
สรุปการรักษาและป้องกันโรคเบาหวาน
โดยสรุปแล้ว โรคเบาหวานคือโรคที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่องซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยและวิธีการรักษา ดูแลหรือวิธีการป้องกัน คือ เปลี่ยนวิธีการกินให้มีการกินอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพให้มากยิ่งขึ้นและมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเพียงเท่านี้