ผู้สูงอายุในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้น และหลายท่านยังมีความสงสัย ไม่เข้าใจในเรื่องสิทธิประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับ นั่นก็คือ การรับเบี้ยผู้สูงอายุ หรือเบี้ยคนชรา 2562 เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในส่วนที่จะได้รับเงินตรงนี้ไป รถเข็นไฟฟ้า Cruisemate จึงขอที่จะนำมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆได้ดังนี้ ว่ามีเงื่อนไขอย่างไร ได้เท่าไหร่ ซึ่งคำถามต่างๆเหล่านี้ ถือเป็นคำถามที่พบกันได้บ่อย
สารบัญเนื้อหา
เบี้ยผู้สูงอายุคืออะไร
เบี้ยผู้สูงอายุ คือ สวัสดิการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ไว้ให้กับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด โดยให้เงินช่วยเหลือทุกเดือน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ซึ่งแต่ละปีรัฐบาลได้เปิดรับลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุทุกปี จะมอบให้กับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2562 มาลงทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ
คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยผู้สูงอายุ ปี 2562 จะต้องมีเงื่อนไข คุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
- สัญชาติไทย ต้องเป็นคนไทย ที่อยู่ในเมืองไทยเท่านั้น หากเป็นสัญชาติอื่น แต่อยู่ในเมืองไทย ก็ไม่มีสิทธิรับเงินนะครับ
- อายุ 59 ปีบริบูรณ์ สำหรับผู้สูงอายุที่ทราบแค่ปีพ.ศ. เกิด แต่ที่ไม่ทราบวัน และ เดือนเกิดที่แน่ชัด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ตามปีพ.ศ.ที่ปรากฏในทะเบียนราษฎร เช่น หากในบัตรประชาชนไม่ระบุวันเกิด แต่ระบุแค่ปีพศ.2495 ให้ถือว่า เกิดวันที่ 1 มกราคม 2495
- ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสากิจใดๆอยู่ก่อนแล้ว เช่น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รายได้ประจำ เงินเดือน ค่าตอบแทนที่รัฐให้เป็นประจำ รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ (มีข้อยกเว้นสำหรับผู้พิการ และผู้ป่วยตามที่ประกาศในระเบียบ)
ลงทะเบียนรับสิทธิเบี้ยผู้สูงอายุที่ไหน
หลังจากที่ผู้สูงอายุ ตรวจสอบคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดทั้ง 3 ข้อ คือ ต้องเป็นสัญชาติไทย อายุเกิน 59 ปีบริบูรณ์ และต้องไม่เคยได้รับสวัสดิการจากรัฐใดๆ สามารถลงทะเบียนขอรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร โดยการลงทะเบียนจะแบ่งตามเขตพื้นที่
- กรุงเทพมหานคร ต้องไปที่สำนักงานเขตที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ต่างจังหวัด ต้องไปที่สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
หากผู้สูงอายุท่านใดไม่สะดวกไปลงทะเบียนด้วยตนเอง จะต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้กับตัวแทน เป็นลายลักษณ์อักษรจึงจะสามารถให้ตัวแทนนั้นมายื่นลงทะเบียนแทนได้ครับ
เบี้ยผู้สูงอายุใช้หลักฐานอะไรบ้าง
กรณีผู้สูงอายุลงทะเบียนด้วยตนเอง
ต้องไปลงทะเบียนที่สำนักเขต หรือ อบต.ที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริงที่มีรูปถ่ายตนเอง พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด หรือใช้บัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ พร้อมสำเนา
- ทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
- สมุดบัญชีธนาคารเงินฝากตัวจริง พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด (สำหรับผู้สูงอายุขอรับเงินผ่านบัญชีธนาคาร)
กรณีมอบอำนาจ
หากผู้สูงอายุที่ไม่สามารถมาลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุได้ด้วยตนเอง ต้องทำหนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอขึ้นทะเบียนแทน โดยต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือมอบอำนาจ (กรอกแบบฟอร์มตามเอกสาร ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงเพื่อขอแบบฟอร์ม)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจ
ลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุได้เมื่อไหร่
การลงทะเบียนเพื่อรับเบี้ยผู้สูงอายุจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ ตามวัน เดือน ปีเกิด โดยแบ่งตามเกณฑ์วันเกิดครับ ให้เอาวันที่ 2 กันยายน 2503 เป็นตัวตั้งครับ ดังนี้
- ถ้าเกิดก่อน 2 กันยายน 2503 ให้ลงทะเบียนช่วงเดือนมกราคม ถึง กันยายน 2562 (รับเงินงบประมาณปี 2563)
- ถ้าเกิดหลัง 2 กันยายน 2503 ให้ลงทะเบียนเดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน 2562 (รับเงินงบประมาณปี 2564)
ผู้สูงอายุต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2504 เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เดือนต.ค.-พ.ย.62 และเดือนม.ค.-ก.ย. 63
คนที่เคยลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุแล้ว ต้องลงทะเบียนอีกไหม
ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ทุกปี ลงครั้งเดียวสามารถรับสิทธิ์ได้ตลอดชีวิต
ยกเว้นกรณีที่ผู้สูงอายุย้ายที่อยู่(ตามทะเบียนบ้าน) หรือมีปัญหา รายชื่อตกหล่น ไม่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ถึงค่อยไปแก้ไขปรับปรุง ยืนยันข้อมูลให้สมบูรณ์ตามเงื่อนไข
เบี้ยผู้สูงอายุได้เท่าไหร่
ผู้สูงอายุจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุได้เท่าไหร่ ตามเงื่อนไข ที่กำหนดนั้นขึ้นอยู่กับตามช่วงอายุ และจำนวนเงินที่รัฐบาลช่วยเหลือจะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได โดยรัฐจะจ่ายให้เป็นรายเดือนโดยปกติจะได้รับทุกวันที่ 10 ของทุกเดือนตลอดชีวิต ดังนี้
600 บาท/เดือน สำหรับ ผู้มีอายุ 60-69 ปี
700 บาท/เดือน สำหรับ ผู้มีอายุ 70-79 ปี
800 บาท/เดือน สำหรับ ผู้มีอายุ 80-89 ปี
1,000 บาท/เดือน สำหรับ ผู้มีอายุ 90 ปีขึ้นไป
รับเงินได้ที่ไหน
หลังจากที่รู้แล้วว่าเงินที่ผู้สูงอายุจะได้รับนั้น ได้เท่าไหร่ โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุ ดังนั้นผู้สูงอายุสามารถรับเงินเบี้ย โดยเลือกได้หลากหลายตามช่องทางดังนี้
กรณีผู้สูงอายุรับเงินด้วยตนเอง
- รับเงินสดด้วยตนเอง
- โอนเข้าบัญชีธนาคาร ของผู้สูงอายุ
กรณีผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจรับแทน
- ผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจรับเงินสดแทนผู้สูงอายุ
- โอนเข้าบัญชีธนาคาร ของผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุท่านใดที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีความประสงค์จะรับสวัสดิการเบี้ยยังชีพ ก็อย่าลืมไปขึ้นทะเบียนกันให้เรียบร้อย
รัฐบาลยังให้เงินช่วยเหลือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสำหรับปี 2563 โดยยังจ่ายเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม
สรุปเงื่อนไข ขั้นตอนวิธีการขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ
สวัสดิการเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลเป็นผู้แจกให้กับผู้สูงอายุที่เกิน 60 ปี และมีสัญชาติไทย คือ เบี้ยผู้สูงอายุ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ค่าใช้จ่ายอุปโภค บริโภคในชีวิตประจำวันเพื่อให้ผู้สูงอายุมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยรัฐจะจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด ดังนั้นการขอรับเบี้ยปี 2562 มีเงื่อนไข การขอลงทะเบียนตามที่กล่าวมา และได้ท่าไหร่จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ เพราะฉะนั้นผู้สูงอายุแต่ละคนจะได้ไม่เท่ากัน
รายละเอียดเพิ่มเติม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงานสวัสดิการสังคม โทร. 0 2245 5166 โทรสาร 0 2245 5166